แอนดรอยด์ (ระบบปฏิบัติการ)
แอนดรอยด์ (อังกฤษ: android) เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์พกพา เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก ทำงานบนลินุกซ์ เคอร์เนล เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอนดรอยด์ (อังกฤษ: Android Inc.) จากนั้นบริษัทแอนดรอยด์ถูกซื้อโดยกูเกิล และนำแอนดรอยด์ไปพัฒนาต่อ ภายหลังถูกพัฒนาในนามของ Open Handset Alliance ทางกูเกิลได้เปิดให้นักพัฒนาสามารถแก้ไขโค้ดต่างๆ ด้วยภาษาจาวา และควบคุมอุปกรณ์ผ่านทางชุด Java libraries ที่กูเกิลพัฒนาขึ้น
แอนดรอยด์ได้เป็นที่รู้จักต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยทางกูเกิลได้ประกาศก่อตั้ง Open Handset Alliance กลุ่มบริษัทฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์ และการสื่อสาร 48 แห่ง ที่ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา มาตรฐานเปิด สำหรับอุปกรณ์มือถือ ลิขสิทธิ์ของโค้ดแอนดรอยด์นี้จะใช้ในลักษณะของซอฟต์แวร์เสรี
โทรศัพท์เครื่องแรกที่สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้คือ เอชทีซี ดรีม ออกจำหน่ายเมื่อ 22 ตุลาคม 2551
เวอร์ชันล่าสุดของแอนดรอยด์คือ 4.2 (JellyBean) ความสามารถใหม่ของ แอนดรอยด์ 4.2 ที่เพิ่มขึ้นมาคือ Photo Sphere ที่สามารถถ่ายรูปได้ 360 องศา และ Keyboard Gestures ที่สามารถลากนิ้วแทนการสัมผัสตัวอักษรได้
รุ่นพัฒนาของแอนดรอยด์จะใช้รหัสชื่อเป็นชื่อขนมหวาน โดยมีตัวอักษรขึ้นต้นเรียงลำดับกัน
รุ่น | ชื่อเล่น | ลินุกซ์ เคอร์เนล | เปิดตัว |
---|---|---|---|
1.0 | 5 พฤศจิกายน 2550 | ||
1.1 | Petit Four (ชื่อไม่เป็นทางการ) | 9 กุมภาพันธ์ 2552 | |
1.5 | Cupcake (คัพเค้ก) | 2.6.27 | 30 เมษายน 2552 |
1.6 | Donut (โดนัท) | 2.6.29 | 15 สิงหาคม 2552 (SDK) |
2.0/2.1 | Eclair (เอแคลร์) | 2.6.29 | 26 ตุลาคม 2552 (2.0) 12 มกราคม 2553 (2.1 SDK) |
2.2 | Froyo (โฟรซเซนโยเกิร์ต) | 2.6.32 | 20 พฤษภาคม 2553 (SDK) |
2.3 | Gingerbread (ขนมปังขิง) | 2.6.35 | 6 ธันวาคม 2553 (SDK) |
3.0/3.1 | Honeycomb (รังผึ้ง) | 2.6.36 | 22 กุมภาพันธ์ 2554 (SDK) |
4.0 | Ice Cream Sandwich (แซนด์วิชไอศกรีม) | 19 ตุลาคม 2554 (SDK) | |
4.1 | Jelly Bean (เจลลีบีน) | 28 มิถุนายน 2555 | |
4.2 | Jelly Bean (เจลลีบีน) | 29 ตุลาคม 2555 |
ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%8C_(%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3)
เจาะลึกลงไปในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์
Android นั้นมีโครงสร้างทางซอร์ฟแวร์ซึ่งประกอบไปด้วย

1. Java applications ที่รันบน Java object oriented application framework ที่ประกอบไปด้วย Java core libraries ที่รันบน Dalvik virtual machine กับ JIT compilation
just-in-time (JIT) compiler โปรแกรมที่เปลี่ยนกลับ bytecode ของ Java ให้เป็นคำสั่งที่สามารถส่งตรงไปที่โพรเซสเซอร์
2.ไลแบรี่ต่างๆที่ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษา C เป็นระบบจัดการขั้นพื้นฐาน
3. ใช้ OpenCore เป็น media framework (ตัวจัดการด้านมัลติมีเดีย)
4.ใช้ SQLite เป็นระบบจัดการฐานข้อมูล
5. ใช้ OpenGL ES 2.0 API เป็นตัวจัดการกราฟิกแบบ 3 มิติ 3D
6. WebKit เลย์เอาต์เอนจิ้น
เว็บคิต (WebKit) เป็นเฟรมเวิร์กในลักษณะโอเพนซอร์ซที่เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล ใช้ในการพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์
7. SGL กราฟิกเอนจิ้น Skia Graphics Engine
8. SSL Transport Layer Security (TLS) หรือชื่อเดิม Secure Sockets Layer (SSL) เป็นโปรโตคอลที่ใช้เข้ารหัสข้อมูลที่ส่งในอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บเพจ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมสนทนา และอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยในการส่งข้อมูล มีข้อแตกต่างในรายละเอียดทางเทคนิคระหว่าง SSL 3.0 และ TLS 1.0 เพียงเล็กน้อย ดังนั้นตัวย่อ SSL จะหมายถึงโปรโตคอลทั้งคู่ ในกรณีที่ไม่ระบุว่าตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ
9. Bionic C Library ไลแบรี่ภาษา C สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

โดยรวมแล้ว Source Code สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มีมากถึง 12 ล้านบรรทัด นั้นประกอบไปด้วย
ซอร์สโค๊ตที่เป็น XML (Extensible Markup Language) Layout ต่างๆ ประมาณ 3 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา C 2.8 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา JAVA 2.1 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา C++ 1.75 ล้านบรรทัด
ที่มา : http://www.phet.in.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น